Veggie

Lilypie Date is set Ticker

Thursday, May 24, 2007

ย้ายที่อยู่ครับ

เนื่องจากที่บ้านใช้ DSL ของ TOT แล้วเข้า Blogspot ไม่ได้เลยย้ายไป
http://roofimon.wordpress.com

Sunday, May 20, 2007

Finger Tape เครื่องช่วยนิ้วมือ

สืบเนื่องมาจากอาทิตย์ที่แล้วไปปีนมาแล้วนิ้วกลางมือซ้ายเปิดเลือดสาดดดด เลยอดปีนไปหกวันเมื่อวานเลยไป ซะหน่อยเพื่อ
ลดระดับความเครียดและเว้นวรรคทางความคิดไม่ให้ คิดแต่เรื่องงานมากเกิน
แต่แผลที่มือยังไม่หายสนิทมันก็อันตรายเกินที่จะปีนมือเปล่าๆ ก็ block นิ้วซะหน่อยซึ่งปกติต้องทำอยู่แล้วแต่คราวที่แล้วขี้เกียจ
เลยได้เลือดซะ ประจวบกับเทปม้วนเก่าหมดเลยไปซื้ออันใหม่ ซึ่งก็ไปได้ของเล่นใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ของเก่าเป็นเทปผ้าสีน้ำตาลที่ใช้ปิดผ้าพันแผลข้อดีคือหนาเหนียว มันเหนียวจริงๆ กาวมันติดมือไปสามวันกว่าจะล้างออกและ คันด้วยในบางคนที่แพ้กาว แต่มันถูก นะสามสิบกว่าบาท
ข้อเสียคือ เวลาที่เรา block นิ้วส่วนมากจะ block ที่ปล้องที่สองของนิ้วนางกับนิ้วนาง เพราะสองนิ้วนี้เมื่ออยู่คู่กันจะรับน้ำหนัก ได้มากที่สุดและปล้องที่สองจะถูกใช้มากที่สุด บางครังบางตัวจับอาจต้องแยกสองนิ้วออกตามรอยของ pocket แต่เนื่องจากไอ้
เทปของถูกกาวมันดีเกิน เวลานิ้วติดกันมันก็ติดกันจริงๆ จังหวะจะแยกแยกไม่ออกเพราะกาวมันดี ทำให้บางที take เพราะแยก
นิ้วไม่ทัน อีกข้อคือมันกินแป้ง magnesium เพราะต้องคอยทาไม่ให้มันติดกัน
คราวนี้เลยลองของใหม่ แพงกว่าเดิมคือ หกสิบบาท เป็นเทปกระดาษบางๆ สีขาวเอาไว้พันแผลเหมือนเดิมแต่อันนี้ กาวดีแต่ไม่ติดกัน ชอบมาก ทำให้นิ้วยังครบห้า ไม่ใช่ ห้าบ้างสี่บ้าง เลยทำให้ปีนสะดวก
ข้อเสียคือแพง และมันไม่ทนสักสามสี่ move ที่ยากๆ หลุดหมดแต่ดดยรวมชอบมากเพราะไม่คันและล้างออกง่าย

เนื่องจากนิ้วเป็นอีกส่วนของร่างกายที่ต้องรับน้ำหนักมากๆเวลาปีนจึงควร block ไว้เพื่อลดอาการบาดเจ็บ

Thursday, May 17, 2007

Free solo climbing ปีนท้านรก

จั่วหัวซะ เพราะก่อนที่ youtube จะโดนแบนเป็นช่วงที่กำลังบ้าดู clip นักปีนไล่ดูจนเกือบจะหมดเพราะอยากศึกษา move ของนักปีนเก่งๆ มีอยู่วันหนึ่งไปเจอคลิบประหลาดนักปีนชื่อ Dan Osman ไอ้หมอนี่บ้ามันปีนหน้าผาที่ความสูง 1200 ฟุตแบบไม่มีอุปกรณ์การปีน ง่ายๆคือมันไม่ใช้เชื่อก แล้วเชื่อไหมครับว่ามันปีนเร็วอย่างกะลิงถ้าไม่โดนแบนตามไปดูได้ที่นี่

http://www.youtube.com/?v=viy9pWTGNys
http://video.google.com/videoplay?docid=994500903799016230

การปีนแบบนี้เรียกว่า solo climbing ปีนด้วยมือและทักษะล้วนๆโดยนักปีนพวกนี้จะฝึกปีนหน้าผานั้นๆจนจำได้หมดว่าจะต้องจับเหลี่ยมไหนมุมไหน กระโดดท่าไหน เป็นสิบๆรอบ ด้วยการปีนแบบปกติ จากนั้นเข้าเหล่านั้นจะเอาเครื่องเคราออกแล้ว ปีน
นักปีนที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่งที่เรารู้จักคือ Alian Robert(Spiderman) ที่ชอบออกทีวีว่าไปโดนจับที่โน่นที่นี่เพราะทะลึ่งไปปีนตึกระฟ้า แบบ solo climbing

แต่น่าแปลกที่มีคนเสียชีวิตจากการปีนแบบ ท้านรกนี้เพียงคนเดียวคือ Derek Hersey โดยสถานที่เสียชีวิตคือ Sentinel Rock
แต่อย่าไปปีนแบบนั้นเลยครับ
ตบท้าย Dan Osman เสียชีวิตจากการตกลงมาจากการเล่นกระโดดเชือกปีน (บันจี้จั๊มแบบทำเอง) ในปี 1998 ด้วยอายุ 35 ปี

Tuesday, May 15, 2007

วิธีฝึกเมื่อไม่ได้ไปปีน

วันไหนไม่ได้ไปปีน แล้วอยากโหนจะทำยังไง? "บันไดบ้านไงคือคำตอบ" เนื่องจากการปีนผาร่างกายท่อนบนจะถูกใช้เยอะมากดังนั้น การฝึกฝนความแข็งแรงของร่างกายส่วนนี้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
เวลานักปีนอยู่บ้าน มักจะหาอะไรโหนอยู่ตลอดเวลา ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น และบันไดบ้านคือของเล่นของผม หน้าตาบันไดบ้านผมเป็นยังไงเดี๋ยวว่างๆจะเอามาฝากครับ แต่ผมจะมี overhang อยู่ที่บ้าน
เริ่มอุ่นเครื่องด้วย โดดจับขั้นที่สูงพอดีขาลอยจากพื้น แล้วจับค้างไว้ให้นานนนนนนนนนนนนนนน เป็นสามสี่นาทีเพื่อยืดกล้ามเนื้อ
ยกที่หนึ่ง จับขั้นเดิมแต่ให้แยกมือออกจากระยะบ่าสักหนึ่งคืบแล้วดึงขึ้นไป(ดึงข้อนั่นเอง) สักหกครั้งจากนั้นหมดแรงห้ามปล่อยมือ ห้อยค้างไว้อย่างนั้น จนหายเมื่อย ดึงอีกหกที หมดแรง ห้อยอีก พอหายเมื่อยปล่อยมือลงมาพัก
ยกที่สอง จับขั้นเดิมแต่คราวนี้จับให้มือชิดกัน ทำเหมือนข้อสอง ใกล้ตายละ เริ่มหน้าเขียวเวลาดึง
ยกสาม ไม่ดึงแล้วแต่ให้ยกขาขึ้นมาให้ตั้งฉากกับลำตัว ค้างไว้ เล่นกล้ามท้องเกร็งไว้จนหมดแรง
ยกสี่ จับขั้นเดิมเริ่มจากจับสองมือแล้วปล่อยมือออกให้เหลือมือเดียว ห้อยไว้จนหมดแรง ทำสลับซ้ายขวา
ไม่มียกห้าเพราะหมดแรง
ทำอย่างนี้ร่างกายช่วงบนจะมีพลังไม่ใช่กล้ามฟูนะ ไม่มีไขมันเลยมีแต่กล้ามเนื้อที่มีความแข็งแรง

Sunday, May 13, 2007

route มหาโหด

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาไปปีนที่ประจำมา ตอนแรกว่าจะไป กกท แต่ฝนเจ้ากรรมตกลงมาซะก่อนเลยต้องไปที่เดิม เนื่องจากก่อนเปลี่ยนเจ้าของผมปีน route ติดอยู่หนึ่ง route ไม่จบสักทีปีนประมาณห้ารอบก็ตายที่เดิมเนื่องจากพลังที่มือ มีไม่พอเลยตั้งใจว่าจะยังไม่ปีน route จนกว่าจะสามารถพัฒนาพลังการจับให้ได้ดีกว่าเดิมก่อน
ก่อนหน้านี้ก็ติดเรื่องน้ำหนักตัวเพราะแรกเริ่มหนัก 78 ปีนไม่ไหวลดน้ำหนักลงไป 8 กิโลเหลือ 70 พริ้วขึ้นมาก
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเลยเล่นแต่ boulder อย่างเดียวฝึกได้ทั้ง balance และการจับเมื่อก่อนเจอตัวจับที่ใช้สองนิ้วนี่วิ่งหนีเลย หลังจากฝึกไปเดือนกว่าๆ รู้สึกว่าแกร่งขึ้นเลย คิดในใจวันนี้จะปีน route เริ่มด้วย route ฟ้า (อย่างงไปปีนจะเห็นเอง) เห็นคนอื่นปีนเด้งไปเด้งมา น่าสนุกเลยลองบ้าง ผลคือ ครั้งเดียวจบโอ้โห ได้ผลว่ะเพราะ route นี้เป็น route ที่เน้นความกล้าเรื่องการคว้าจับ pocket ที่ไกลเกินเอื้อม ต้องโยกจับเยอะ ผลคือที่ฝึกมาได้ใช้เยอะ อ่อลืมไปติด take นึงเพราะหมดแรง เอาน่าแต่เอาจนจบ
ลงมาพักรู้สึกว่าปีนดีขึ้นเยอะเรื่อง balance และการจับตัวจับแปลกๆ ที่เมื่อก่อนจับไม่เคยติด (เริ่มได้ใจ)

นั่งดูเค้าปีน route ม่วงอันนี้ยิงมันเพราะเจ้าของใหม่ set route แปลกจากที่เคยเห็นปกติเค้าจะขึ้นหน้าไหนจบหน้านั้น แต่ไอ้หมอนี่ ขึ้นหน้านึงไปจบอีกสองหน้าถัดไป แล้วให้มุดอยู่ใต้ overhang ด้วยและตลอด route เต็มไปด้วย move ตัวเอียงๆตลอด
น่าสนใจ

ลองหน่อยละกันขึ้นไปได้สามตัวเจอ move ตัวแทบขนานพื้น มือขวารั้งpocket สองนิ้ว มือซ้ายต้องไปจับ pocket เล็กๆแบนเพื่อถ่ายน้ำหนักไปเปลี่ยนขา กำลังจะจับได้ โครม ตกพื้นครับมือซ้ายเปิดเลย

น้องที่ผาบอกถ้าอยากหายให้เอากาวตราช้างหยอด คิดในใจไม่เป็นไรพี่รอได้ครับ เก็บของกลับบ้านพร้อมฝากรอยแค้นไว้อีกสองวันจะมาเอาคืน

Wednesday, May 9, 2007

การดูแลรักษา Harness

ต่อจากเมื่อวานเรื่องอะไรคือ Harness วันนี้เรื่องการดูแลรักษา Harness อุปกรณ์เจ้าชีวิตของนักปีนเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของเราเองโดยมีขั้นตอน ดังนี้

1. ก่อนปีนดูให้เรียบร้อยก่อนว่ามีรอยฉีกรอยขีดรอยเสียหายหรือป่าว ถ้ามีโยนทิ้งทันทีไม่ว่าจะแพงแค่ไหนเพราะชีวิตเราแพงกว่า
2. ทำความสะอาดทุกครั้งหลังปีนด้วยการล้างด้วยสบู่อ่อนๆเช่นสบู่เด็กเพื่อขจัดคราบสกปรกออก จากนั้นตากในที่ร่มระหว่างทำความสะอาด ให้ทำข้อที่ 1 ไปด้วย
3. เก็บ harness ให้พ้นแสงแดด(อย่าตากแดด) ไม่ใช่ให้ปีนในร่มหรือใส่ harness ไว้ในกางเกง(นึกไม่ออกเวลาตก) หรือสารเคมีที่เป็นกรดหรือด่างจัด
4. ควรจะเปลี่ยน Harness ทุกๆสองปีหรือเมื่อไม่ผ่าน ข้อ 1

แค่นี้แหละครับสำหรับวันนี้

Tuesday, May 8, 2007

Climbing Harnesses - Parts and Features



อุปกรณ์สำคัญต่อชีวิตนักปีนเวลาปีน route สูงคือ harness(อาน)อานนี้ใช้ผูกนักปีนไว้กับเชือกปีนเพื่อรักษาชีวิตนักปีนเวลาพลาดตกจากหน้าผาส่วนประกอบสำคัญของอานมีหกอย่างคือ
WaistBelt เข็มขัดรัดเอวเอาไว้ประคองร่างการส่วนบนเวลาใส่จะรัดบริเวณเหนือสะดือเล็กน้อย
Leg Loops ห่วงรัดขามีไว้เพื่อประคองร่างกายส่วนล่างเวลาใส่จะรัดบริเวณน่อง
ทั้ง WaistBelt และ Leg loop จะถูกเชื่อมกันด้วย Belay Loop และสายเชื่อมด้านหลังสองเส้น
Belay Loop ใช้สำหรับใส่อุปกรณ์การ belay สำหรับ partner ที่อยู่ด้านล่างเพื่อใช้ดึงนักปีน แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าเจ้า
belay loop นี้จะถูกใช้ตอนปีนด้วยหรือป่าวบางคนให้ร้อยเชือกผ่านบางคนก็ไม่ใช้ผ่าน harness บางตัวจะไม่มี belay loop
เพราะถือว่าไม่จำเป็น
Gear Loops ห่วงใส่อุปกรณ์การปีนเช่น quickdraws, carabiners และอื่นๆ
Padding แผ่นรัดขาและเอวมีหลายแบบทั้งบางเบาและหนานุ่มขึ้นอยู่กับความชอบ แบบบางเบาจะไม่เทอะทะเวลาปีนแต่จะไม่สะดวกเวลานั่งพักบน harness เมื่อปีน multi pitch ที่กินเวลาและบางครั้งต้องพักบน harness ที่สำคัญ hard fall แล้วจะรัดมากสำหรับแบบบางเบา
Haul loops ห่วงพิเศษมีในบางรุ่นเท่านั้นมีอยู่ด้านหลังเอาไว้แขวนถุงชอล์ค บางคนเอาไว้แขวนเชือกปีน

Monday, May 7, 2007

ผมจะไปแข่ง

รู้ตัวว่าเพิ่งปีนได้ไม่นานแถมไม่ค่อยมีเวลาปีนด้วย แต่ไหนๆเค้ามีสนามให้แข่งก็ต้องไปลองกันหน่อยครับงานนี้ชื่องาน Thailand Bouldering Competition จัดโดยบริษัท ECHO STONE จัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยกำหนดการแข่งขันวันที่ 24-27 เดืิอนนี้ครับ เริ่มรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22
การแข่งขันจริงๆมีสองประเภทคือ Boulder กับ Dyno โดยพื้นที่มีความสูง 4.5 เมตร กว้าง 10 เมตร
ที่น่าสนใจคือวันที่ 24-25 เปิดให้ผู้สนใจไปลองปีนเล่นได้ เอาละตามไปอ่านได้เลยที่นี่ครับ
TBC2007

งานนี้อย่าอายเลยครับไปเถอะ ขำๆ ไปดูว่าคนเก่งๆปีนยังไงหาทางปีนเองไม่ได้ก็ลอกการบ้านเค้าเอา ไปเอาบรรยากาศ ครับ

Saturday, May 5, 2007

ผลพลอยได้จากการปีนหน้าผา

อ่านที่พี่ป๊อกเขียนไว้เรื่องที่มาของการปีน รู้สึกว่าน่าจะเขียนเรื่องผลที่ได้จากการปีนบ้างทั้งทางตรงและทางอ้อม
หนึ่ง สุขภาพดีแน่นอนเพราะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง
สอง สมาธิเพราะระหว่างเล่นห้ามคิดเรื่องอื่นเพราะต้องจำ route และจัดร่างกายให้ได้ balance ไม่งั้นตก
สาม ภาษาอังกฤษดีเพราะฝรั่งเล่นเยอะระหว่างพักก็ชวนมันคุยบางทีออกสนามจริง คุยกันเพลินเพราะเมาบาง คนปีนจนได้ภรรยาฝรั่ง
สี่ เป็นคนรักสะอาดไว้เล็บไม่ได้เพราะถ้าไว้เล็บมือมือจะแหกเพราะเอาเล็บไปจับ pocket ถ้าเล็บตีนยาวก็ใส่รองเท้าไม่ได้ถ้าใส่ได้ตอนปีนก็เจ็บเพราะ
เอาเล็บไปรับน้ำหนัก
ห้า trust เพราะเวลาปีนสูงต้องมี buddy เพื่อบีเลย์ให้ต้องไว้ใจเค้าเพราะชีวิตเราอยู่กับเค้าเลยเต็มๆ ดังนั้นต้อง trust ซึ่งกันและกัน
หก ไม่ประมาทเพราะต้องรับผิดชอบชีวิตคนทั้งคนเวลา บีเลย์

ข้อเสีย
หนึ่ง แพงตอนเริ่มเพราะอุปกรณ์ต้องมีไว้คือ harness กับ รองเท้าสองอย่างนี้ก็เกือบหกพันแล้วแต่ถูกกว่ากอล์ฟนะ
สอง มือสากมาก
สาม เจ็บบางที่สำหรับท่านสุภาพบุรุษ ในกรณีที่ซื้อ harness ไม่ดีเวลา hard fall มันจะรั้งขึ้นมากระแทกจุดยุทธศาสตร์ดังนั้นอย่าเหนียวเวลาซื้อ harness ไม่เช่นนั้นจะจุกกลางอากาศ
สี่ เมียด่าเวลาตกแล้วกระแทกผา เลือดสาด

Thursday, May 3, 2007

Campus board

แคมพัสบอร์ด คืออุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ฝึกเทคนิคการปีนที่มีประสิทธิภาพมากนักปีนที่ฝึกจะต้องปีนขึ้นปีนลงบอร์ด โดยใช้เพียงแค่มือเท่านั้นเพราะบอร์ดนี้ใช้ฝึกความแข็งแรงของร่างกายช่วงบนโดยเฉพาะ

หน้าตาของบอร์ดก็ไม่ได้มีอะไรประหลาดส่วนประกอบหลักมีสองส่วนคือ กระดานเรียบๆกับระแนงเล็ก โดยตัวบอร์ดสามารถทำให้เป็นแนวตั้งกับพื้นหรือถ้าจะให้มันส์ก็ทำเอียงออกมาได้ไม่เกิน 20 องศา

บอร์ดนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดย Wolfgang Gullich นักปีนปีศาจผู้สร้าง Action Directe เพราะ Wolfgang เห็นว่าการพิชิต Action Directe ต้องใช้นิ้วที่ทรงพลังในการผ่านสนาม Single Finger Pocket ไปได้โดย บอร์ดแรกถูกติดตั้งไว้ที่โรง Gym ของมหาวิทยาลัยดังนั้นชื่อ Campus Board จึงมาจากที่นี่นี่เองเอารูปไปดู









พร้อมคู่มือการฝึก http://www.metoliusclimbing.com/Campus%20Board%20Brochure.pdf



Action Directe

อ่านว่าอะไรไม่รู้แต่ผมอ่านว่า แอ๊คชั่น ไดเรค ชื่อนี้สำคัญอย่างไรวงการนักปีน คำตอบคือสำคัญแน่นอนเพราะนี่คือเส้นทางการปีนที่ยากที่สุดในโลกที่ เคยถูกบันทึกไว้ ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยนักปีนอัจฉริยะที่ชื่อ Wolfgang Gullich
เส้นทางนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Ludwigshafen ประเทศเยอรมัน สาเหตุที่ยากเพราะอะไรน่ะหรือมันก็คือการปีน Action Directe ต้องผ่านอุปสรรคอันแสน ยากคือ Long Dynamic Move และ Move เหล่านั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่หลอกหลอนนักปีนคือ Single Finger Pocket หรือรูนิ้วเดียว ลองนึกภาพตาม นะครับน้ำหนักตัวเราเกือบทั้งหมดอยู่บนนิ้วๆเดียว โอ่ยแค่คิดก็ขอชิงตายก่อน
แต่สิ่งที่ว่ายากก็มีคนบ้าปีนตามได้อีก แปด คนคือ

* Alexander Adler in 1995
* Iker Pou in 2000
* Dave Graham in 2001
* Christian Bindhammer in 2003
* Rich Simpson on 2005 Oct 13
* Dai Koyamada on 2005 Oct 15
* Markus Bock on 2005 Oct 22
* Kilian Fischhuber on 2006 Sep 25

เอารูปไปดูว่าเค้าปีนกันยังไง


Tuesday, May 1, 2007

ต่ออีกนิดกับ Chris Sharma

ไปอ่านเจอเพิ่มเติมว่าคริสเริ่มปีนตอนอายุ 12 เพราะพ่อกับแม่เอาไปปล่อยไว้ที่ gym และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไอ้หมอนี่ก็ไม่ทำ อะไรนอกจากปีนเขาแต่แม้กระทั่งปัจจุบันคริสก็ยังไม่ยอมรับเต็มปากว่าตัวเองเป็น full time rock climber
มีคนเคยถามคริสว่ามีวิธีฝึกอย่างไรให้กลายเป็นนักกีฬาระดับแนวหน้าอย่างนี้ได้ คำตอบคือไม่มีแบบแผนทำไปเพราะสนุกและ
ทำตามความรู้สึกล้วนๆ อย่างนี้ซิถึงเรียกว่ามีคนให้มาตั้งแต่เกิด น่าอิจฉาที่ได้ค้นพบว่าตัวเองมีพรสวรรค์ด้านไหน
แต่คริสไม่เคยได้แชมป์โลก น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะคริสถือเป็นนักปีนพรสวรรค์ที่เป็นตัวแทนของ Wolfgang Gullich
ไม่รู้จะเขียนไรต่อเอารูปคริสที่มาปีนที่ ไร่เลย์ มาฝาก
เป็นการปีน route ชื่อ cruising vodoo doll ระดับความยาก 7c+


Monday, April 30, 2007

Chris Omprakash Sharma



9a+ คือเลขความยากของหน้าผาที่ผู้ชายคนนี้ทำไว้ได้ ถือว่าเป็นนักปีนที่น่ายกย่องอีกคนของโลกในความคิดของผม คริสเกิดที่ Santa Cruz, California

เริ่มปีนตั้งแต่อายุ 12 ขวบพออายุ 14 ตาหมอก็ชนะการแข่งขัน Sport Climbing Nationals และอีกหนึ่งปีคริสก็ทำการปีนผาระดับ 5.14c ที่ชื่อ
Necessary Evil ใน Arizona's ได้สำเร็จซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางการปีนที่หินมากแห่งหนึ่งในอเมริกาและปีนี้เองคริสก็ได้ตำแหน่งรองแชมป์โลกมา ครอง
ข้ามมาปี 2001 คริสสร้างความมหัศจรรย์ด้วยการทำโปรเจค Realization หรือ Biographie สำเร็จโดยจุดปีนนี้ถือเป็นจุดปีนที่มีระดับความยาก 5.15a หรือ 9a+ ที่แรกของโลกแต่เรื่องระดับความยากของโปรเจคนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แต่อย่าไปสนใจมันเลยถ้าใครอยากดูการปีนที่แสนสวย งามตามมาดูได้ที่นี่ครับ
Chris Sharma Climbs Realization - Google Video

โดยผมว่ามันเหมือนปีนกระดานอ่ะทำไปได้ไงโดยเฉพาะสิบ move สุดท้ายโอ้สพลังทั้งนั้น
ยังไม่พอปี 2006 คริสทำโปรเจคยากอีกอันโดยเป็นการปีนแบบ deep water solo โดยเป็นการปีนใต้โค้งของช่องผาสูง 65 ฟุตที่ประเทศสเปนโดย โปรเจคนี้ทำให้มนุษย์แมงมุมอย่างคริสต้องปีนถึง 50 ครั้งกว่าจะผ่านไปได้และเส้นทางนี้ยังไม่ถูกจะระดับความยาก
เอาแค่นี้ก่อนละกันครับดู Realization แล้วจะหนาว

Monday, April 16, 2007

การปีนแบบ Bouldering

การปีนแบบ Bouldering หรือไต่ตามขอบที่สูงไม่เกิน 4 เมตรหรือ 12 ฟุตเป็นการปีนแบบสั้นๆที่แสนสนุกเพราะจะได้ฝึกทักษะการปีนที่จำเป็นเช่นการรักษาสมดุล ฝึกจับ การก้าวขาและการปีนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยมีแค่เพียง รองเท้า ถุงชอร์ค และ เบาะรองตกในบางกรณี


การ set เส้นทางการปีนจะต้องไม่เกิน 10 move โดยที่ move เหล่านั้นต้องเป็น move ที่ทรงพลัง ใช้เทคนิค




ส่วนประกอบอีกอย่างที่สำคัญคือคนชี้จุด ประเป็นคนคอยประคองนักปีนในกรณีที่ move นั้นๆมีอันตรายเช่นการทำ sit start หรือ move ที่อยู้บริเวณ over hang หรือ มีการกระโดด นอกจากนี้ยังช่วยชี้จุดในการทำ move ต่อเนื่องต่างๆในกรณีที่นักปีนอยู่ในท่าที่ไม่สามารถเห็นจุดต่อ move ได้



Sunday, April 15, 2007

รองเท้าปีนเขา รองเท้าบัลเล่ บนหน้าผา

วันนี้ว่างครับเพราะสงกรานต์พอดีไปไหนไม่ได้ด้วยเพราะเมียท้อง แพ้ท้องเยอะด้วยเลยได้ทีเขียนต่อเรื่องรองเท้าปีนเขา หลายคนอาจงงว่าทำไมต้องซื้อรองเท้าชนิดพิเศษเพื่อกีฬา
ประเภทนี้ด้วย ใช้รองเท้าธรรมดาไม่ได้หรอมาเดี๋ยวจะเฉลยให้ฟัง

เนื่องจากการปีนหน้าผาจำเป็นจะต้องเหยียบตามร่องหรือรอยแตกหรือจงอยหรือแง่งหรือรูที่อยู่บนผาและก็เป็นกรรมที่บางครั้งขนาดของไอ้ที่เราจะเหยียบมันใหญ่ไม่เกิน
เหรียญบาท เล็กจริงๆ ทำให้ไม่สามารถยืนได้เต็มเท้า ดังนั้นอวัยวะ เดียวที่สามารถทิ้งน้ำหนักไว้ได้คือ นิ้วหัวแม่ตีนครับ และลองนึกภาพถ้าเราจะเหยียบลงบนเหรียญแล้วดัน
ใส่ converse คู่โปรดซึ่งปกติมีช่องว่างระหว่างปลายรองเท้ากับนิ้วหัวแม่ตีนประมาณ 2 cm มันจะอยู่ไหมคำตอบคือ ไม่รอด

รองเท้าปีนผาจึงถูกออกแบบมาให้แก้ปัญหาเหล่านี้โดยเมื่อใส่ลงไปจะรู้สึกว่าเป็นหนัง กำพร้าหนา สองเซ็นหุ้มตีนเราอีกทีโดยจะมีหน้าตาประหลาดแบบนี้ครับ

ส่วนประกอบที่สำคัญมีเก้าประการดังภาพด้านล่างนี้ครับ แต่ขี้เกียจอธิบายหมดเอาไปสามสี่อย่างพอ

1Rubber พื้นรองเท้าจะเป็นยางที่ยืดหยุ่นดีเพื่อใช้ในการดันตัวติดกับหน้าผา และป้องกันการบาดกับเหลี่ยมหิน

4. Heel Rand.ผมเรียกที่รองส้นเท้าส่วนบนใกล้ๆเอ็นร้อยหวายต้องมีความหนาเกือบเท่าพื้นรองเท้าเพราะจำเป็นเวลาที่นักปีนต้องเกี่ยวตัวกับแง่งหินด้วยส้นเท้าด้านบนเช่น
ท่ากางเขนนรก เพราะน้ำหนักตัวจะถูกทิ้งไว้ที่ส้นเท้าบนทั้งหมด

อีกส่วนไม่มีในรูปคือปลายเท้าจะหนากว่าพื้นสองเท่าเพราะเป็นส่วนที่ถูกใช้งานมากที่สุด สึกหรอมากที่สุด ปลายรองเท้าจะต้องแทบจะพอดีกับเท้าของเรา ดังนั้นเวลาซื้อรองเท้าปีนเขา มักจะต้องซื้อให้เล็กกว่าเท้า หนึ่งถึงสองเบอร์ และปล่อยให้มันยืดเข้าหาเท้าเอง



Wednesday, March 21, 2007

วันนี้ไม่ได้ปีน

"วันนี้ไม่ได้ไปปีนเนื่องจากเมื่อวานไปปีนมาสามชั่วโมง" คนที่อ่านคงงงว่าไอ้นี่มันเขียนอะไร จริงๆแล้วคนอื่นเค้าเขียน blog กันมาชาติกว่าๆแล้วและผมก็นิสัยเสียอ่านแต่ blog คนอื่นตามอ่านมานานมากกกกกกกกก วันนี้นึกครึ้มเลยเอาซะที
ประเด็นต่อมาคือเขียนอะไรดี เรื่อง programming คงน่าเบื่อเพราะตัวเองก็ไม่มีอะไรพิศดารเพราะใช้คาถาสุดยอดคือ "คิดไม่ออกบอก google เดี๋ยวก๋แก้ได้เอง" ดังนั้นเรื่องนี้จะไม่เขียนถ้าไม่จำเป็นก็เลย ต้องวกมาเขียนเรื่องกีฬาที่ตัวเองเล่นอยู่ซึ่งจริงๆก็เล่นดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น tennis, บาส, ปิงปอง, ว่ายน้ำ แต่ที่โดนใจที่สุดคือ ปีนหน้าผา
จริงๆแล้วรู้จักกีฬานี้มานานมากแต่ไม่รู้สึกว่าสนุกเพราะคิดเอาเองว่า ทำไมต้องลำบากปีนไอ้แท่งๆปลอมๆด้วยปีนต้นมะม่วงที่บ้านก็ได้ แล้วอีกอย่างมันคงจะง่ายเพราะก็ไม่เห็นมีอะไร ก็ปีนๆไปตามตัวจับเดี๋ยวก็ถึงยอดระดับเราซะอย่าง แล้วก็ลืมมันไป
จนเมื่อปีที่แล้วมีโอกาสได้คุยกับรุ่นน้องที่เคยเรียนด้วยกันผ่าน msn และก็เป็นเรื่องบังเอิญมือไปกดโดน link ไปที่ msn space ของมัน

ก็ไปเห็นโอ้โห "ไอ้นี่เล่นทุกอย่างเลย ขี่มอไซ ยิงปืนBB และ ปีนหน้าผา" ที่หนักกว่านั้นมันเอารูปที่มันไปปีนที่หาดไร่เร จังหวัดกระบี่มาโชว์
โอ้โหอีกแล้วเพิ่งรู้ว่าตอนปีนเค้าทำท่าเท่ๆ แบบพระเอก MI2 ได้ด้วยสรุปคือมันถ่ายรูปออกมาหล่อมากเท่ด้วยก็แหม่อยากมีเองสักรูป เลยสอบถามมันไปว่าปีนที่ไหนอย่างไร สรุปว่าให้ไปหัดที่ Imperial ลาดพร้าวก่อนเลยเพราะต้องฝึกเป็นปีกว่าจะปีนได้ ได้ยินแค่นี้เราก็
แหมเป็นไปได้ไงไม่น่าจะยากเลยเพราะก็แค่ 12 เมตรเอง เดี๋ยวพี่จะไปโชว์เอง (คิดในใจอย่างห้าว)

หลังจากนั้นอีกสองวันไปปีนเลยครับ เป็นผาจำลองสูง 12 เมตรมีสี่ด้าน มี hang น้อยๆสองด้านพร้อม pocket เป็นร้อยตัวละลานตามอง ด้วยตาผมปีนจบมั้งสี่ด้านแหละ ก็นีกในใจหล่อๆเลยว่าเดี๋ยวโชว์เลย จากนั้นก็รายงานเจ้าหน้าที่ว่าเราไม่เคยปีนวันนี้อยากลอง เค้าก็อธิบาย
รายละเอียด เล็กน้อยแล้วก็ให้ทำการปีนวนรอบทั้งสี่ด้านให้ดูก่อน เราก็ไม่ขัดด้วยการปีนได้ด้านละสองก้าว!!!!! แขนขยับไม่ได้อีกต่าง หาก แถวบ้านเรียกสอบตกตั้งแต่ตื่น !!!!!! เค้าก็บอกจริงๆแล้วปีนได้แค่นี้ต้องฝึกอีกนานแต่ไหนมาวันนี้แล้วลองขึ้นสูงดู เราก็คิดในใจ อีกว่า ปีนรอบๆมันยากเพราะตัวจับมันเล็กเดี๋ยวจะโชว์ขึ้นสูงให้ดูเพราะเล็งๆแล้วตัวจับมันใหญ่ หลังจากใส่อุปกรณ์หมด ก็ขึ้นดูอย่างมั่น ใจได้ขั้นดังนี้

ขั้น 1. สบายเพราะจับติดมือ เท้าเหยียบดี
ขั้น 2. พอไหวเริ่มตึงๆ เริ่มมองไม่ออกว่าจะจับตัวไหน เหยียบตัวไหน ไอ้ที่เล็งไว้ลืมหมดเพราะ แค่ดึงไว้ก็แย่แล้ว
ขั้น 3. จับได้แขนเดียว ขาขึ้นข้างเดียว มือสั่น คิดไม่ออก มือที่จับก็ไม่ไหว ขาก็เหยียบไม่อยู่ ในใจคิด โอ้โหนี่เข้าใจผิดมาตลอด
ขั้น 4. ไม่มีขั้นที่สี่ เพราะหลังจากคิดในใจเมื่อกี้จบ ก็ตกทันที เพราะหมดแรง
ขั้น 5. อายมากเพราะกล้ามที่ได้จากการเล่น fitness ไม่มีประโยชน์เลย กำ

ลงมานั่งเสียกำลังใจอย่างแรง แต่ก็สนุกเพราะรู้สึกว่าเป็นกีฬาที่คลายเครียดมาก ไม่มีเวลาคิดอย่างอื่นต้องมีสมาธิกับการปีนมาก
แต่วันนี้พอก่อนเพราะอายเค้า กล้ามฟูเชียวแต่ขึ้นได้สามขั้น เด็กสิบสองขวบยังขึ้นได้สูงกว่าอีก เก้ฐของกลับบ้านพร้อมรอยแค้นว่า
ต้องปีนให้ได้แบบนี้ซักวัน